"ก๊าซธรรมชาติ"
ก๊าซธรรมชาติเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยเกิดจากการสะสมและทับถมของซากสิ่งมีชีวิตตามชั้นหิน ดิน และในทะเลหลายร้อยล้านปี ระหว่างนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติซึ่งมีสาเหตุมาจากความร้อนและความกดดันของผิวโลก จนซากสัตว์และซากพืชหรือฟอสซิลนั้นกลายเป็นน้ามันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ที่เรานามาใช้ประโยชน์ได้ในที่สุด เราจึงเรียกเชื้อเพลิงประเภทน้ามัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ว่า เชื้อเพลิงฟอสซิล
ประโยชน์จากก๊าซธรรมชาติ
ก๊าซมีเทน (C1)
ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า และความร้อนในโรงงานอุตสาหกรรม ใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ รู้จักกันในชื่อว่า “ก๊าซธรรมชาติสาหรับยานยนต์” (NGV: Natural Gas for Vehicle)
ก๊าซอีเทน (C2)
ใช้ผลิตเอทีลีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นสาหรับเม็ดพลาสติกโพลีเอทีลีน (PE) เพื่อใช้ผลิตถุงพลาสติกหลอดยาสีฟัน ขวดพลาสติกใส่แชมพู และเส้นใยพลาสติกชนิด ต่างๆ
ก๊าซโพรเพน (C3)
ใช้ผลิตโพรพิลีนซึ่งเป็นสารตั้งต้นในอุสาหกรรมปิโตรเคมี เพื่อใช้ในการผลิต เม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) เช่น ยางในห้องเครื่องรถยนต์ หม้อแบตเตอรี่ กาว และสารเพิ่มคุณกาพน้ำมันเครื่อง
ก๊าซโพรเพนและก๊าซบิวเทน (C3+C4)
ก๊าซโพรเพนกับก๊าซบิวเทนมาผสมกันตามอัตราส่วน อัดใส่ถังเป็นก๊าซปิโตรเลียมเหลว ( LPG) หรือที่เรียกกว่าก๊าซหุงต้ม สามารถนาไปใช้เป็น “เชื้อเพลิงสาหรับยานยนต์”
ก๊าซโซลีนธรรมชาติ (C5+)
ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมตัวทำละลาย ใช้ผสมเป็นน้ำมันเบนซินสำเร็จรูปc]tใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรม ปิโตรเคมี
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)
เมื่อผ่านกระบวนการแยกแล้วจะถูกนำไปทำให้อยู่ในสภาพของแข็ง เรียกว่า น้ำแข็งแห้ง นำไปใช้ใน อุตสาหกรรมถนอมอาหาร อุตสาหกรรมน้ำอัดลมและเบียร์
ที่มา http://www.scan-inter.com
By : ที่ปรึกษาระบบมาตรฐาน QSG Consult